เลือกภาษาของคุณ
อุทยานธรณีโลกโคราช (Korat UNESCO Global Geopark) ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 นับเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งที่สองของประเทศไทย และทำให้จังหวัดนครราชสีมากลายเป็นเมืองลำดับที่สี่ของโลกที่มีมรดกโลกสามมงกุฎอยู่ในจังหวัดเดียวกัน อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคองใน 5 อำเภอ ได้แก่ สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา และเฉลิมพระเกียรติ
คุณค่าทางธรณีวิทยา:
เขาเควสตา (Khorat’s Questas): เป็นลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของโคราช เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกในอดีต ทำให้เกิดภูเขาที่มีด้านหนึ่งลาดชันและอีกด้านหนึ่งลาดเอียงคล้ายสันมีดหรือรูปอีโต้ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางธรณีวิทยาที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในอดีต
ซากดึกดำบรรพ์ (Fossils): พื้นที่นี้เป็น "มหานครแห่งบรรพชีวิน" (The City of Fossils) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิต 3 ยุคที่สำคัญ ได้แก่ ยุคจูราสสิก ยุคครีเทเชียส และยุคควอเทอร์นารี (ยุคน้ำแข็ง) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน ฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์ และฟอสซิลไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่นี้อย่างลึกซึ้ง
ความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิต: อุทยานธรณีโลกไม่ได้มีแค่คุณค่าทางธรณีวิทยาเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นที่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การใช้ดินเหนียวในพื้นที่เขาเควสตาเพื่อทำเครื่องปั้นดินเผา และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยา
การบริหารจัดการและการท่องเที่ยว:
อุทยานธรณีโลกโคราชเน้นการจัดการอย่างยั่งยืน โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ เช่น พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวและนักเรียนนักศึกษา ทำให้โคราชจีโอพาร์คเป็นทั้งแหล่งวิจัยและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ